แต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก งบไม่บาน แต่อยู่ได้นาน

แต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก งบไม่บาน แต่อยู่ได้นาน

🕒 ใช้เวลาอ่าน 3 นาที เข้าใจวิธีเลือกซื้อและดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้สักแบบประหยัดงบ

หลายคนคงเคยได้ยินว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้สักราคาแพง แต่รู้ไหมว่าถ้าเลือกดีๆ เราก็สามารถแต่งบ้านด้วยไม้สักได้โดยไม่ต้องกระเป๋าฉีก วันนี้เรามาดูกันว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้คุณได้เฟอร์นิเจอร์ไม้สักสวยๆ ไปแต่งบ้าน โดยที่ไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินกัน(อันนี้ก็เกินไป)!

ทำไมต้องเป็นไม้สักด้วยล่ะ?

ไม้สักนี่ถือว่าเป็นราชาแห่งไม้เลยก็ว่าได้ เพราะมีดีหลายอย่างมาก

  • แข็งแรงทนทานสุดๆ ปลวกยังไม่กล้าแตะ
  • มีน้ำมันในตัวเอง เลยไม่ค่อยผุพังง่ายๆ ทนทั้งแดดทั้งฝน
  • ลายไม้สวยเป็นเอกลักษณ์ ดูมีคลาส ยิ่งใช้ยิ่งสวย
  • อยู่ได้ยาวนานข้ามรุ่น เป็นสมบัติที่ใช้ได้จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

เทคนิคเลือกซื้อให้ไม่เจ็บกระเป๋า

  1. ซื้อทีละชิ้น แต่เลือกชิ้นสำคัญก่อน : ไม่ต้องรีบซื้อทีเดียวทั้งบ้านหรอก เริ่มจากของที่ใช้บ่อยๆ ก่อน ค่อยๆ เก็บเงินแล้วทยอยซื้อไป แนะนำให้เริ่มจากห้องที่ใช้เวลาอยู่เยอะๆ อย่างห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น
  2. ซื้อจากแหล่งผลิตโดยตรง : ลองหาโรงงานหรือร้านในแหล่งผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ราคาจะถูกกว่าซื้อผ่านคนกลาง แถมยังได้เห็นขั้นตอนการผลิตและเลือกไม้ได้ด้วยตัวเอง
  3. เช็คค่าใช้จ่ายแฝง : นอกจากราคาเฟอร์นิเจอร์แล้ว อย่าลืมถามเรื่องค่าขนส่ง ค่าติดตั้ง หรือค่าบริการอื่นๆ บางร้านอาจคิดแพงจนรวมแล้วไม่คุ้ม
  4. เลือกดีไซน์เรียบๆ ใช้ได้นาน : แบบเรียบๆ ไม่ต้องมีลวดลายเยอะ นอกจากราคาจะถูกกว่าแล้ว ยังเข้ากับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้ง่าย ไม่ต้องกลัวเชย
  5. ดูขนาดให้พอดี : วัดพื้นที่ให้แน่นอนก่อนซื้อ อย่าซื้อใหญ่เกินห้อง หรือเล็กเกินจนใช้งานไม่สะดวก จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ให้เสียเงินซ้ำ

วิธีดูแลให้อยู่ยืนยาว

หลายคนกลัวว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้สักจะดูแลยาก แต่จริงๆ แล้วดูแลง่ายมาก แค่หมั่นทำความสะอาดและเก็บให้ถูกที่ ก็อยู่ได้นานหลายสิบปี ไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยากหรือใช้ผลิตภัณฑ์แพงๆ เลย

  • เช็ดฝุ่นบ่อยๆ ด้วยผ้านุ่มๆ
  • อย่าให้โดนแดดจ้าๆ
  • ปีละครั้งสองครั้ง อย่าลืมทาน้ำมันบำรุงไม้
  • ระวังอย่าให้โดนกระแทกแรงๆ
  • เห็นเปื้อนอะไรก็รีบเช็ดทันที

จัดวางยังไงให้บ้านดูดี


การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้สักให้สวยนั้นไม่ยาก แค่เข้าใจหลักการพื้นฐานก็ช่วยให้บ้านดูดีได้แล้ว:

จัดวางตามทิศทางแสง:

  • วางเฟอร์นิเจอร์ห่างจากหน้าต่างที่โดนแดดจัด
  • จัดวางให้โชว์ลายไม้สวยๆ ตรงที่แสงส่องถึงพอดี
  • ใช้ไฟส่องเน้นจุดเด่นของเฟอร์นิเจอร์ในตอนกลางคืน
  1. เว้นระยะให้พอดี:
  • เว้นช่องว่างระหว่างเฟอร์นิเจอร์กับผนังประมาณ 5-10 ซม. ให้อากาศเดินได้
  • จัดวางให้มีพื้นที่เดินสะดวก ไม่น้อยกว่า 80 ซม.
  • ถ้าเป็นตู้หรือชั้นวาง ควรเว้นด้านบนไว้ 30-50 ซม. เผื่อเวลาหยิบของ
  1. สร้างความสมดุล:
  • กระจายเฟอร์นิเจอร์ไม้สักให้ทั่วห้อง ไม่กองรวมกันจุดเดียว
  • ถ้ามีชิ้นใหญ่ เช่น ตู้โชว์ ให้วางเป็นจุดโฟกัสของห้อง
  • จัดวางให้สมมาตร เช่น โซฟาไม้สักสองข้าง มีโต๊ะกลางตรงกลาง
  1. ผสมผสานวัสดุอื่น:
  • ใช้ผ้าม่านสีอ่อนช่วยลดความแข็งของไม้
  • เพิ่มพรมนุ่มๆ ใต้โต๊ะหรือเก้าอี้ไม้
  • แต่งด้วยหมอนอิง แจกัน หรือของตกแต่งที่มีสีสันสดใส
  1. เลือกสีที่เข้ากัน:
  • ผนังสีอ่อน เช่น ครีม เบจ หรือขาว ช่วยขับลายไม้สัก
  • เลือกผ้าบุเฟอร์นิเจอร์โทนธรรมชาติ เช่น น้ำตาล เขียว น้ำเงินเข้ม
  • ใช้สีตัดบ้างเล็กน้อยในของตกแต่ง แต่ไม่ควรฉูดฉาดเกินไป
  1. จัดตามฟังก์ชันการใช้งาน:
  • วางเฟอร์นิเจอร์ตามการใช้งานจริง เช่น โต๊ะอ่านหนังสือควรอยู่ใกล้หน้าต่าง
  • จัดกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ตามกิจกรรม เช่น มุมนั่งเล่น มุมทานอาหาร เ
  • ว้นทางเดินหลักให้โล่ง ไม่วางของกีดขวาง

สรุปแล้วไง?

จริงๆ แล้วการลงทุนกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สักไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถึงตอนแรกอาจจะต้องควักเงินหน่อย แต่ความคุ้มค่าที่ได้นั้นคุ้มจริงๆ แค่เลือกเป็น ดูแลดี ก็จะมีของดีๆ ใช้ไปอีกนาน จนลูกหลานได้ใช้ต่อเลยล่ะ!